-->

🚚จัดส่งฟรี !! เมื่อซื้อสินค้าครบ ฿1000 ขึ้นไป‼🚚

พิเศษ สั่งซื้อสินค้า ฿5000 ขึ้นไป สามารถ ผ่อนชำระบัตรเครดิต
สูงสุด 0% | 10 เดือน !!!

สั่งของได้ ส่งของได้ตามปกติค่ะ ^^

สารบัญ

ปฏิทินผลไม้ไทย 12 เดือน มีอะไรให้เก็บเกี่ยวบ้าง?

ประเทศไทยเป็นดินแดนที่อุดมไปด้วยผลไม้หลากหลายชนิด ด้วยสภาพภูมิอากาศเขตร้อนที่เหมาะสม ทำให้เราสามารถปลูกและพัฒนาสายพันธุ์ผลไม้ได้อย่างหลากหลาย มาดูกันว่าในแต่ละเดือนมีผลไม้อะไรให้เราได้ลิ้มลองกันบ้าง

ไตรมาสที่ 1: เริ่มต้นปีด้วยรสหวานฉ่ำ

มกราคม

  • มะขามหวาน: เก็บเกี่ยวได้หลังดอกบาน 4 เดือน
  • สตรอว์เบอร์รี: ผลผลิตเต็มที่หลังดอกบาน 3 เดือน
  • องุ่น: เริ่มให้ผลหลังปลูก 4 เดือน
  • ฝรั่ง: พร้อมเก็บเกี่ยวหลังดอกบาน 3 เดือน
  • มะพร้าว: เริ่มให้ผลผลิตเมื่ออายุ 3 ปี

กุมภาพันธ์

  • เสาวรส: เริ่มให้ผลผลิตที่อายุ 5-7 เดือน
  • ชมพู่: เก็บเกี่ยวได้เร็วเพียง 25-30 วันหลังดอกบาน
  • กล้วยหอม: ใช้เวลาประมาณ 10-11 เดือนหลังปลูก

มีนาคม

  • ทับทิม: เริ่มให้ผลผลิตที่อายุ 1-3 ปี
  • มะม่วงมหาชนก: ระยะเก็บเกี่ยว 100-115 วัน
  • ขนุน: พร้อมเก็บเกี่ยวหลังดอกบาน 4 เดือน
  • แตงโม: เก็บเกี่ยวได้เร็วเพียง 55 วันหลังปลูก

ไตรมาสที่ 2: ฤดูกาลแห่งผลไม้เมืองร้อน

เมษายน

  • ลิ้นจี่: เก็บเกี่ยวหลังดอกบาน 3 เดือน
  • มะไฟ: เริ่มให้ผลที่อายุ 4-5 ปี
  • สับปะรด: ใช้เวลา 6 เดือนหลังออกผล

พฤษภาคม

  • ทุเรียน: พร้อมเก็บเกี่ยวหลังดอกบาน 4 เดือน
  • เงาะ: ใช้เวลาหลังดอกบาน 4 เดือน
  • หม่อน: ให้ผลผลิตเต็มที่ที่อายุ 2 ปี

มิถุนายน

  • มังคุด: เก็บเกี่ยวหลังดอกบาน 4 เดือน
  • กระท้อน: ใช้เวลา 130-150 วันหลังดอกบาน
  • มะละกอ: พร้อมเก็บเกี่ยวหลังดอกบาน 4 เดือน

ไตรมาสที่ 3: ความหลากหลายของรสชาติ

กรกฎาคม

  • ส้มโอ: ใช้เวลายาวนานถึง 210 วันหลังดอกบาน
  • ส้มเขียวหวาน: เก็บเกี่ยวหลังดอกบาน 8-10 เดือน
  • กล้วยไข่: เก็บเกี่ยวได้หลังปลูก 60-70 วัน

สิงหาคม

  • ลองกอง: พร้อมเก็บเกี่ยวหลังดอกบาน 4 เดือน
  • ลำไย: ใช้เวลา 180-210 วันหลังดอกบาน
  • มะเฟือง: เริ่มให้ผลที่อายุ 2-3 ปี

กันยายน

ยังคงมีผลผลิตต่อเนื่องจากเดือนสิงหาคม พร้อมกับการเก็บเกี่ยวองุ่นรอบใหม่

ไตรมาสที่ 4: ปิดท้ายปีด้วยความอร่อย

ตุลาคม

  • มะกอกน้ำ: เริ่มให้ผลเร็วที่สุดเพียง 1 ปี
  • ขนุนรอบที่สอง: ผลผลิตต่อเนื่องตลอดปี

พฤศจิกายน

  • ละมุด: ใช้เวลาเก็บเกี่ยว 6 เดือน
  • แตงโมรอบใหม่: พร้อมเก็บเกี่ยวใน 55 วัน

ธันวาคม

  • ส้มเขียวหวานรอบใหม่
  • ชมพู่: ผลผลิตรอบสุดท้ายของปี
  • ผลไม้ประจำทุกฤดูกาล เช่น กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม และมะละกอ

การเปลี่ยนแปลงในปี 2025

ในปี 2025 เราพบว่ามีการปรับตัวของฤดูกาลผลไม้บางชนิดเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แต่โดยรวมแล้ว ปฏิทินผลไม้ยังคงเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับเกษตรกรและผู้บริโภคในการวางแผนการผลิตและการบริโภคผลไม้ตามฤดูกาล

ทั้งนี้ ระยะเวลาการเก็บเกี่ยวอาจมีความแตกต่างกันไปตามพื้นที่ปลูก สภาพภูมิอากาศ และการดูแลรักษา ผู้ปลูกควรสังเกตลักษณะผลและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่ประกอบการตัดสินใจเก็บเกี่ยวด้วย 

ความหลากหลายตามฤดูกาล

ในช่วงต้นปี เราจะพบกับผลไม้ที่ให้รสชาติหวานฉ่ำอย่างมะขามหวานและสตรอว์เบอร์รี โดยมะขามหวานจะใช้เวลาประมาณ 4 เดือนหลังดอกบานจึงจะเก็บเกี่ยวได้ ส่วนสตรอว์เบอร์รีนั้นจะให้ผลผลิตเต็มที่หลังดอกบาน 3 เดือน นอกจากนี้ยังมีองุ่นที่เริ่มให้ผลหลังปลูก 4 เดือน และฝรั่งที่สามารถเก็บเกี่ยวได้หลังดอกบาน 3 เดือน

เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางปี ผลไม้เมืองร้อนจะเริ่มทยอยออกผล โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน จะเป็นฤดูกาลของราชาผลไม้อย่างทุเรียน ที่ต้องใช้เวลาถึง 4 เดือนหลังดอกบานจึงจะเก็บเกี่ยวได้ ตามมาด้วยเงาะและมังคุดที่ออกผลในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน

การเก็บรักษาผลผลิต

การเก็บรักษาผลไม้แต่ละชนิดต้องใช้ความพิถีพิถันแตกต่างกันไป ทุเรียนต้องการอุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 13-15 องศาเซลเซียส และควรแยกเก็บจากผลไม้ชนิดอื่นเนื่องจากมีกลิ่นแรง ส่วนมังคุดต้องการอุณหภูมิที่เย็นกว่าคือ 4-6 องศาเซลเซียส และต้องเก็บในที่ที่มีการระบายอากาศดี ส้มโอสามารถเก็บได้นานถึง 6-8 สัปดาห์ที่อุณหภูมิ 8-10 องศาเซลเซียส

พื้นที่เพาะปลูกที่เหมาะสม

สภาพภูมิประเทศของไทยที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคเอื้อให้สามารถปลูกผลไม้ได้หลากหลายชนิด ภาคเหนือที่มีอากาศเย็นและพื้นที่สูงเหมาะสำหรับการปลูกลิ้นจี่และสตรอว์เบอร์รี ในขณะที่ภาคตะวันออกมีสภาพอากาศและดินที่เหมาะสมกับการปลูกทุเรียน มังคุด และเงาะ เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนที่เพียงพอและดินมีความอุดมสมบูรณ์

คุณค่าทางโภชนาการ

ผลไม้ไทยไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อย แต่ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ฝรั่งและมะขามป้อมเป็นแหล่งวิตามินซีที่สำคัญ โดยมะขามป้อมมีปริมาณวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 20 เท่า นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ผลไม้หลายชนิดยังมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยในการรักษาโรคต่างๆ

การแปรรูปและเพิ่มมูลค่า

การแปรรูปผลไม้เป็นวิธีหนึ่งในการถนอมอาหารและเพิ่มมูลค่าผลผลิต การทำผลไม้แห้งเป็นวิธีการแปรรูปแบบดั้งเดิมที่ยังคงได้รับความนิยม โดยเฉพาะลำไย มะม่วง และสับปะรด นอกจากนี้ การดองผลไม้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาและสร้างรสชาติที่แตกต่าง

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการปรับตัว

ในปี 2025 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อการผลิตผลไม้ไทย การออกดอกนอกฤดูกาลและผลผลิตที่ไม่แน่นอนกลายเป็นความท้าทายสำคัญ เกษตรกรต้องปรับตัวด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ระบบพยากรณ์อากาศที่แม่นยำและโรงเรือนอัจฉริยะ เพื่อควบคุมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืช

การระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืชชนิดใหม่ก็เป็นอีกปัญหาที่ต้องเผชิญ เกษตรกรจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน และใช้เทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัยเพื่อลดความเสียหายของผลผลิต

ข้อควรคำนึง

แม้ว่าปฏิทินผลไม้จะเป็นแนวทางที่ดีในการวางแผนการผลิตและการบริโภค แต่ระยะเวลาการเก็บเกี่ยวอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ ทั้งพื้นที่ปลูก สภาพภูมิอากาศ และการดูแลรักษา เกษตรกรควรสังเกตลักษณะผลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่เพื่อการตัดสินใจที่เหมาะสม นอกจากนี้ การติดตามข้อมูลการพยากรณ์อากาศและการปรับใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่จะช่วยให้การผลิตผลไม้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง