-->

🚚จัดส่งฟรี !! เมื่อซื้อสินค้าครบ ฿1000 ขึ้นไป‼🚚

พิเศษ สั่งซื้อสินค้า ฿5000 ขึ้นไป สามารถ ผ่อนชำระบัตรเครดิต
สูงสุด 0% | 10 เดือน !!!

สั่งของได้ ส่งของได้ตามปกติค่ะ ^^

ปลูกผักขายออนไลน์ คู่มือส่งตรงจากฟาร์มสู่หน้าบ้าน

ในยุคที่ใคร ๆ ก็อยากมีรายได้เสริมที่ทำงานได้จากที่บ้าน การปลูกผักขายออนไลน์ไม่ใช่แค่ไอเดียในฝันอีกต่อไป แต่คือโอกาสที่จับต้องได้จริง โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีพื้นที่เล็ก ๆ หลังบ้านในจังหวัดบ้านเกิด ไปจนถึงริมระเบียง หรือแม้แต่การปลูกแปลงเล็ก ๆ ในคอนโดก็สามารถเริ่มต้นเพาะกล้าผักขายได้ หรือแม้กระทั่งเปิดหน้าร้านออนไลน์ที่ส่งผักถึงหน้าบ้านลูกค้าที่ในปัจจุบัน ทำได้ง่ายกว่าที่คุณคิด 

ซึ่งในบทความนี้ เอกสุวรรณเกษตร 2001 ขอพาคุณไปรู้จักกับขั้นตอนการปลูกผักขายแบบง่าย ๆ ตั้งแต่เริ่มเลือกพื้นที่ วางแผนอุปกรณ์ ทำตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย ไปจนถึงจัดส่งถึงมือลูกค้า พร้อมเทคนิคที่คุณทำตามได้จริง โดยไม่ต้องมีฟาร์มใหญ่ ไม่ต้องลงทุนสูง และยังใช้สินค้าเกษตรพื้นฐานที่เราจัดจำหน่ายอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด

1. เข้าใจว่าทำไมต้องปลูกผักขาย ?

เหตุผลที่หลายคนเลือกปลูกผักขาย ก็เพราะต้นทุนต่ำ กำไรดี และสามารถเริ่มต้นได้ในทันที นี่คือเหตุผลที่ทำให้การปลูกผักขายกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมของคนที่อยากมีรายได้เสริมจากที่บ้าน โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ต้องการผักสด ปลอดภัย และอยากอุดหนุนสินค้าเกษตรจากแหล่งที่เชื่อถือได้มากกว่าผลิตภัณฑ์ในห้าง อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าผักใบเขียวเป็นหนึ่งในพืชผักที่มีการบริโภคและซื้อขายได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี และความต้องการผักอินทรีย์หรือผักปลอดสารเคมีก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 15–20% ต่อปี โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคเมือง และลูกค้าที่มีกำลังซื้อซึ่งยินดีจ่ายแพงขึ้นเพื่อแลกกับคุณภาพ

นอกจากนี้ การปลูกผักเพื่อจำหน่ายยังใช้ต้นทุนเริ่มต้นต่ำมากเมื่อเทียบกับการลงทุนในธุรกิจประเภทอื่น ๆ เช่น

  • ถาดเพาะกล้า 1 ถาด ราคาไม่ถึง 50 บาท
  • เมล็ดพันธุ์คุณภาพสูง เริ่มต้นเพียง 20–30 บาทต่อซอง
  • พลาสติกคลุมแปลงหรือวัสดุป้องกันศัตรูพืช ก็ใช้ซ้ำได้หลายรอบ

โดยที่ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อแปลงทดลอง (เช่น ขนาด 1×2 เมตร) สามารถสร้างรายได้ 500–1,000 บาทต่อรอบปลูก โดยใช้เวลาประมาณ 25–35 วัน แล้วแต่ชนิดผัก เช่น ผักกาดหอม คะน้า กวางตุ้ง หรือผักชี ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณอยู่ในพื้นที่ใกล้เมืองหรือมีช่องทางขายออนไลน์ เช่น Facebook Marketplace หรือกลุ่มปลูกผักในท้องถิ่น การกระจายสินค้าไปถึงมือลูกค้าก็ง่ายและไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านจริง ดังนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมใคร ๆ ก็เริ่ม ปลูกผักขาย เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของการปลูก แต่คือโอกาสในการสร้างรายได้จากสิ่งเล็ก ๆ ที่เราทำได้ด้วยมือเราเอง

2. เลือกพื้นที่ปลูกให้เหมาะ

การจะเริ่มต้นปลูกผักขาย ไม่จำเป็นต้องมีที่ดินกว้างใหญ่หรือแปลงผักขนาดยักษ์ เพราะสิ่งสำคัญกว่าขนาด คือ ความเหมาะสมของพื้นที่กับชนิดผักที่ปลูก ซึ่งสามารถปรับได้ตามไลฟ์สไตล์และสภาพแวดล้อมของคุณ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในเมืองหรือต่างจังหวัดก็ตาม

สำหรับคนในเมือง

หากคุณอาศัยอยู่ในคอนโด อพาร์ตเมนต์ หรือบ้านที่มีพื้นที่จำกัด การปลูกในกระถาง รางปลูกแนวตั้ง หรือกล่องโฟมบนระเบียงก็สามารถเริ่มได้ง่าย ๆ แค่มีแสงแดดอย่างน้อย 4–6 ชั่วโมงต่อวัน โดยเฉพาะช่วงเช้าถึงเที่ยง เช่น ด้านทิศตะวันออกหรือทิศใต้ที่มีแดดปานกลางถึงจัด จะเหมาะสำหรับผักกินใบ เช่น ผักสลัด ผักกาด คะน้า หรือแม้แต่สมุนไพรในครัวอย่างโหระพา ตะไคร้ และแมงลัก

พื้นที่แนวตั้ง เช่น ราวระเบียงหรือผนังตึก สามารถติดตั้งรางปลูกหรือถุงปลูกแนวดิ่งได้ และยังใช้พลาสติกคลุมบางส่วนเพื่อควบคุมความชื้นในฤดูร้อนหรือกันฝนในฤดูฝน ทำให้การดูแลผักง่ายขึ้นโดยไม่เปลืองพื้นที่

สำหรับคนต่างจังหวัดหรือบ้านที่มีพื้นที่

คุณสามารถเริ่มจากแปลงเล็ก ๆ ขนาด 1×2 เมตร หรือใช้พื้นที่หลังบ้านสำหรับทำโรงเรือนขนาดย่อม โดยใช้พลาสติกคลุมแปลงเพื่อควบคุมวัชพืชและรักษาความชื้น และใช้ตาข่ายกันแมลงคลุมโครงเหล็กง่าย ๆ เพื่อช่วยป้องกันศัตรูพืชโดยไม่ต้องใช้สารเคมี

แนะนำให้แบ่งพื้นที่เป็น 2 โซน

  • โซนเพาะกล้า (ใช้ถาดเพาะกล้าในโรงเรือนหรือใต้ร่มไม้)
  • โซนปลูกจริง (ใช้แปลงดินหรือกระบะปลูกพร้อมระบบน้ำหยดหรือรดมือ)

พื้นที่ขนาดเล็กแค่ 2–4 ตารางเมตร ก็สามารถปลูกผักได้หลายชนิดพร้อมกัน และสลับหมุนเวียนได้ตามฤดูกาล ช่วยให้มีผลผลิตพร้อมขายตลอดทั้งปี โดยไม่ต้องขยายพื้นที่มากในช่วงเริ่มต้น

3. การเลือกซื้ออุปกรณ์เกษตร

อุปกรณ์ที่ดีไม่ใช่แค่ช่วยให้ปลูกผักได้ง่ายขึ้น แต่ยังช่วยประหยัดแรง ประหยัดเวลา และเพิ่มโอกาสให้ต้นกล้าเติบโตแข็งแรง พร้อมขายได้เร็วขึ้นด้วย ซึ่งโชคดีมากที่ตอนนี้คนเริ่มต้นสามารถหาซื้ออุปกรณ์คุณภาพในราคาที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือชนบทก็ตาม

ถาดเพาะกล้า

ถาดเพาะเป็นจุดเริ่มต้นที่คนปลูกผักขายต้องมี เพราะช่วยให้ควบคุมการงอกของเมล็ดได้ดีกว่าการหว่านเมล็ดลงดินโดยตรง ถาดเพาะกล้าจะแยกหลุมให้ชัด ทำให้รากไม่พันกัน ลดปัญหาต้นกล้าหัก และยังเคลื่อนย้ายได้สะดวก ถาดมาตรฐานที่เอกสุวรรณเกษตร 2001 จำหน่ายมีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ 50–200 หลุม เหมาะทั้งคนเริ่มต้นและมืออาชีพ

พลาสติกคลุมแปลง

พลาสติกคลุมแปลงหรือพลาสติกคลุมโรงเรือน ช่วยป้องกันวัชพืช รักษาความชื้น และควบคุมอุณหภูมิในแปลงปลูกได้ดี โดยเฉพาะในหน้าร้อนหรือช่วงฝนตกบ่อย ลดโอกาสที่ผักจะช้ำหรือรากเน่า พลาสติกแบบแผ่นหนาของเอกสุวรรณทนแดดทนฝน ใช้ซ้ำได้หลายฤดูกาล

ตาข่ายกันแมลงและมุ้งโรงเรือน

ตาข่ายพลางแสงแดด (สแลนกรองแสง)

ตาข่ายกันแมลงและมุ้งโรงเรือน เป็นอีกหนึ่งไอเท็มสำคัญ ถ้าคุณไม่อยากพึ่งสารเคมี เพราะแมลงศัตรูพืชคือปัญหาหลักของคนปลูกผักในฤดูฝนหรือพื้นที่ที่มีแมลงรบกวนเยอะ การเลือกใช้ตาข่ายชนิดรูเล็ก ช่วยให้ผักโตได้โดยไม่ถูกกัดกิน

ถุงเกษตร

ถุงเพาะถุงปลูกและกระถาง เหมาะกับคนพื้นที่น้อย เช่น ปลูกบนระเบียงหรือดาดฟ้า ถุงปลูกมีหลายขนาด ใช้ร่วมกับดินปลูกหรือวัสดุปลูกสำเร็จรูปก็ได้ ซึ่งช่วยให้ควบคุมคุณภาพผักได้ดีโดยไม่ต้องมีแปลงดินจริง ๆ

อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ

กรรไกรตัดแต่ง เทปพันกิ่ง ปุ๋ยอินทรีย์ และกระบอกฉีดพ่นหมอก ก็ล้วนเป็นตัวช่วยที่ทำให้กระบวนการปลูกผักง่ายขึ้น สนุกขึ้น และ “ดูเป็นมืออาชีพ” มากขึ้นในสายตาลูกค้า

4. เริ่มขายผักออนไลน์

เมื่อคุณเริ่มมีผักหรือกล้าผักที่พร้อมขาย คำถามถัดมาคือ “จะขายให้ใคร?” และ “จะให้เขารู้จักเราได้อย่างไร?” ซึ่งคำตอบไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะทุกวันนี้แค่มีมือถือกับอินเทอร์เน็ต คุณก็มีหน้าร้านได้แล้วบนโลกออนไลน์

ใช้โซเชียลมีเดีย

อาจเริ่มโพสต์จากโซเชียลมีเดียใกล้ตัวคุณ เช่น Facebook ส่วนตัวของคุณเอง หรือกลุ่มในชุมชน เช่น กลุ่มคนรักการปลูกผัก กลุ่มตลาดนัดออนไลน์ประจำอำเภอ กลุ่มแม่บ้านใกล้บ้าน หรือกลุ่มคนทำงาน Work from Home ที่มักจะมองหาผักปลอดสารไปทำอาหารที่บ้าน การโพสต์ขายควรมีภาพผักหรือกล้าผักที่ชัดเจน บอกชื่อพันธุ์ ระยะเวลาเพาะ และราคาต่อชุด/ต้น พร้อมเขียนคำบรรยายง่าย ๆ เป็นกันเอง เช่น “ผักกาดหอม ปลูกจากเมล็ดอินทรีย์ ไม่ฉีดยา ทานสดได้เลย” แค่นี้ก็สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าได้แล้ว

โพสต์อย่างสม่ำเสมอ

อัปเดตความคืบหน้าของต้นกล้า เช่น วันนี้งอกแล้ว / เริ่มโตแล้ว / อีก 5 วันพร้อมส่ง / รอบหน้าเปิดสั่งวันไหน สิ่งนี้ช่วยให้ลูกค้ารู้ว่าคุณดูแลผักอย่างใกล้ชิดจริง ไม่ใช่แค่พ่อค้าคนกลาง และยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กลายเป็น “ลูกค้าประจำ” ได้ในอนาคต

ช่องทางเสริม

ช่องทางเสริมที่ควรใช้ คือ Facebook Marketplace และกลุ่มซื้อขายในจังหวัดหรือพื้นที่ใกล้เคียง เพราะคนจะใช้ช่องทางนี้ในการหาของสด ของกิน หรือของใช้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว คุณจึงมีโอกาสเจอลูกค้าใหม่ ๆ ได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา

โดยหากคุณขายกล้าผักหรือผักสดเป็นประจำ การเตรียม แบบฟอร์มจอง เช่น Google Form หรือแค่เปิดอินบ็อกซ์ให้สั่งจองล่วงหน้า จะช่วยให้คุณจัดการจำนวนต้นกล้าและเวลาจัดส่งได้ดียิ่งขึ้น และยังลดของเสียหรือของเหลือที่ขายไม่ทัน

การจัดส่งคือช่วงเวลาสำคัญไม่แพ้ตอนปลูก เพราะต่อให้คุณปลูกผักได้สวย สด และสะอาดแค่ไหน แต่ถ้าไปถึงมือลูกค้าแล้วเหี่ยว ช้ำ หรือบรรจุไม่เรียบร้อย ก็อาจทำให้ลูกค้าไม่กลับมาซื้อซ้ำได้ สำหรับผักสด เช่น ผักสลัด ผักกาด คะน้า ควร เก็บตอนเช้าตรู่ ก่อนแดดแรง และจัดเตรียมไว้ในที่เย็นทันที เช่น กล่องโฟมหรือภาชนะที่มีผ้าชุบน้ำรองด้านล่าง จากนั้นรีบจัดส่งภายใน 2–3 ชั่วโมงหลังเก็บ เพื่อรักษาความกรอบสดตามธรรมชาติช่องทางเสริมที่ควรใช้ คือ Facebook Marketplace และกลุ่มซื้อขายในจังหวัดหรือพื้นที่ใกล้เคียง เพราะคนจะใช้ช่องทางนี้ในการหาของสด ของกิน หรือของใช้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว คุณจึงมีโอกาสเจอลูกค้าใหม่ ๆ ได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา

โดยหากคุณขายกล้าผักหรือผักสดเป็นประจำ การเตรียม แบบฟอร์มจอง เช่น Google Form หรือแค่เปิดอินบ็อกซ์ให้สั่งจองล่วงหน้า จะช่วยให้คุณจัดการจำนวนต้นกล้าและเวลาจัดส่งได้ดียิ่งขึ้น และยังลดของเสียหรือของเหลือที่ขายไม่ทัน

5. จัดส่งยังไงให้สดถึงมือลูกค้าพร้อมใจเขาซื้อซ้ำ

การจัดส่งคือช่วงเวลาสำคัญไม่แพ้ตอนปลูก เพราะต่อให้คุณปลูกผักได้สวย สด และสะอาดแค่ไหน แต่ถ้าไปถึงมือลูกค้าแล้วเหี่ยว ช้ำ หรือบรรจุไม่เรียบร้อย ก็อาจทำให้ลูกค้าไม่กลับมาซื้อซ้ำได้ สำหรับผักสด เช่น ผักสลัด ผักกาด คะน้า ควร เก็บตอนเช้าตรู่ ก่อนแดดแรง และจัดเตรียมไว้ในที่เย็นทันที เช่น กล่องโฟมหรือภาชนะที่มีผ้าชุบน้ำรองด้านล่าง จากนั้นรีบจัดส่งภายใน 2–3 ชั่วโมงหลังเก็บ เพื่อรักษาความกรอบสดตามธรรมชาติ

การมัดหรือแพ็กผักควร เน้นความเรียบร้อยสะอาดและสบายตา เช่น มัดด้วยหนังยางอ่อน ๆ ห่อด้วยถุงใสหรือถุงพลาสติกคลุมอาหารสำหรับงานเกษตร พร้อมแปะป้ายเล็ก ๆ แจ้งชื่อผัก วันที่เก็บ และชื่อผู้ปลูกเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ (ซึ่งวัสดุอย่างถุงพับใส ถุงห่อแวค ถุงตาข่าย ฯลฯ หาซื้อได้จากเอกสุวรรณเกษตร 2001 ในราคาชุดประหยัด)

สำหรับ กล้าผักหรือต้นพันธุ์ ควรใส่ในถุงเพาะหรือกระถางเล็ก พร้อมวางในลังหรือกล่องที่มีช่องกันกระแทก เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์หรือหญ้าแห้ง เพื่อไม่ให้ต้นโยกคลอนขณะขนส่ง โดยเฉพาะหากคุณต้องส่งข้ามอำเภอหรือใช้บริการขนส่งภายนอก เช่น Grab, Flash หรือ Kerry

ลูกค้าท้องถิ่นบางรายอาจมารับเอง คุณจึงควรมีมุมจัดเตรียมออเดอร์ไว้ล่วงหน้า เช่น ตั้งโต๊ะหน้าบ้านหรือในโรงเรือนย่อม ๆ ที่แยกกล่องตามชื่อไว้ชัดเจน เพื่อให้รับสินค้าได้ง่าย ลดความวุ่นวาย และดูเป็นมืออาชีพ แม้จะเป็นฟาร์มขนาดเล็ก

หากมีการส่งหลายรอบต่อวัน อย่าลืม ถ่ายภาพก่อนส่ง ไว้ใช้เป็นหลักฐานกรณีมีปัญหา และเป็นคอนเทนต์ที่โพสต์ให้ลูกค้าใหม่เห็นความใส่ใจในรายละเอียดของคุณได้อีกทางหนึ่งด้วย สุดท้ายนี้ จงจำไว้ว่าการจัดส่งที่ดี คือประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า และนั่นคือจุดเริ่มต้นของคำว่า “ลูกค้าประจำ” ที่จะทำให้ธุรกิจเล็ก ๆ ของคุณเติบโตอย่างมั่นคงโดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาเลยด้วยซ้ำ

เอกสุวรรณการเกษตร

ผู้เชี่ยวชาญด้าน เกษตรโรงเรือน อุปกรณ์โรงเรือน พลาสติกโรงเรือน พลาสติกปูบ่อ มานานกว่า 30 ปี
เราได้รับความวางใจโดยเกษตรกรทั่วไทย มามากกว่า 100,000 ราย

สารบัญ