-->

🚚จัดส่งฟรี !! เมื่อซื้อสินค้าครบ ฿1000 ขึ้นไป‼🚚

พิเศษ สั่งซื้อสินค้า ฿5000 ขึ้นไป สามารถ ผ่อนชำระบัตรเครดิต
สูงสุด 0% | 10 เดือน !!!

สั่งของได้ ส่งของได้ตามปกติค่ะ ^^

สารบัญ

วิธีเลือกใช้แสลนกันแดด ให้เหมาะสมกับงาน

ในประเทศไทยที่มีแสงแดดจัดตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่อุณหภูมิอาจสูงถึง 40 องศา การปลูกพืชกลางแจ้งจึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย เกษตรกรและคนทำสวนต้องคอยรดน้ำบ่อยครั้ง และบางครั้งพืชก็ยังเหี่ยวเฉาหรือใบไหม้จากความร้อนที่มากเกินไป นี่คือเวลาที่เราควรคิดถึงการใช้แสลนกันแดดให้กับพืช นั่นก็คือการติดตั้งผ้าสแลนเพื่อให้ร่มเงา ซึ่งไม่เพียงช่วยประหยัดน้ำและแรงงานในการดูแล แต่ยังช่วยให้พืชของคุณเติบโตได้ดีและแข็งแรงแม้ในสภาพอากาศร้อนจัดได้อีกด้วย

จึงทำให่้ในวันนี้ เอกสุวรรณการเกษตร จึงอยากจะขอมาแชร์เทคนิคและวิธีเลือกใช้แสลนกันแดดให้เหมาะสมกับงาน เพื่อให้เพื่อนๆ ได้ศึกษาและมีข้อพิจารณาก่อนการเลือกใช้ผ้าแสลนกันแดดเพื่อให้ได้ผ้าแสลนที่ดีที่สุดซึ่งเหมาะสมกับงานที่ต้องการใช้งานมากที่สุดกันครับ

วิธีเลือกใช้แสลนกันแดด

1. เข้าใจเรื่องความหนาแน่นของแสลน

ในประเทศไทยที่มีแสงแดดจัดตลอดปี การเลือกความหนาแน่นของแสลนที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญมาก สำหรับการปลูกผักสวนครัวทั่วไป แนะนำให้ใช้แสลนความหนาแน่น 50-60% ซึ่งจะช่วยกรองแสงแดดที่แรงเกินไปแต่ยังให้แสงเพียงพอต่อการเจริญเติบโต สำหรับพื้นที่พักผ่อนหรือระเบียงบ้าน ควรเลือกใช้แสลนความหนาแน่น 80-90% เพื่อสร้างร่มเงาที่เย็นสบาย

2. เลือกใช้ตามประเภทการใช้งาน

ในการเกษตร แสลนความหนาแน่น 50% เหมาะสำหรับพืชผักสวนครัวที่นิยมปลูกในไทย เช่น พริก มะเขือ ผักคะน้า ผักกาดขาว และผักบุ้ง เพราะพืชเหล่านี้ต้องการแสงแดดพอประมาณเพื่อการเจริญเติบโต สำหรับไม้ดอกไม้ประดับที่ต้องการร่มเงามากกว่า เช่น กล้วยไม้ เฟิร์น และพลูด่าง ควรใช้แสลนความหนาแน่น 70-80% เพื่อป้องกันใบไหม้

3. พิจารณาพื้นที่ใช้งาน

สำหรับสวนในบ้าน ควรพิจารณาทิศทางของแสงแดดและช่วงเวลาที่แดดส่องถึง พื้นที่ที่โดนแดดจัดช่วงสายถึงบ่าย ควรใช้แสลนความหนาแน่นสูง ส่วนพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดอ่อนๆ ตอนเช้าหรือเย็น อาจใช้แสลนความหนาแน่นต่ำลงมา นอกจากนี้ แสลนยังเหมาะสำหรับการทำที่จอดรถ ระเบียง หรือพื้นที่พักผ่อนกลางแจ้ง โดยเลือกความหนาแน่น 80-90% เพื่อให้ร่มเงาที่เพียงพอ

4. ติดตั้งและดูแลรักษา

ในการติดตั้งแสลน ควรคำนึงถึงทิศทางลมและฝนในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงมรสุม ควรติดตั้งให้มั่นคงแข็งแรงและมีความลาดเอียงเล็กน้อยเพื่อให้น้ำฝนไหลผ่านได้ดี การติดตั้งควรเผื่อระยะห่างจากพื้นที่ปลูกพืชหรือพื้นที่ใช้งานประมาณ 1-2 เมตร เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดี ลดการสะสมความร้อน

5. คำแนะนำก่อนการเลือกซื้อ

เมื่อเลือกซื้อแสลน ควรเลือกชนิดที่ผลิตสำหรับใช้งานในเมืองร้อนโดยเฉพาะ มีความทนทานต่อรังสี UV สูง และมีการรับประกันอายุการใช้งาน แสลนคุณภาพดีควรทนต่อสภาพอากาศแบบร้อนชื้นของไทย ไม่ขาดหรือเสื่อมสภาพง่าย และควรเลือกสีที่เหมาะสม โดยสีดำจะดูดความร้อนมากกว่าสีเขียวหรือสีขาว ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรามากกว่า

6. การบำรุงรักษาให้ใช้งานแสลนได้นานยิ่งขึ่น

เพื่อยืดอายุการใช้งานของแสลนในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ควรหมั่นทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าเพื่อล้างฝุ่นและคราบสกปรก หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรงในการทำความสะอาด และตรวจสอบการยึดเกาะและรอยฉีกขาดอย่างสม่ำเสมอ ในช่วงหน้าฝนควรตรวจสอบการระบายน้ำและความแข็งแรงของจุดยึดต่างๆ เป็นพิเศษ เพื่อป้องกันความเสียหายจากพายุฝน