-->

🚚จัดส่งฟรี !! เมื่อซื้อสินค้าครบ ฿1000 ขึ้นไป‼🚚

พิเศษ สั่งซื้อสินค้า ฿5000 ขึ้นไป สามารถ ผ่อนชำระบัตรเครดิต
สูงสุด 0% | 10 เดือน !!!

สั่งของได้ ส่งของได้ตามปกติค่ะ ^^

สายยาง PVC vs Rubber vs PE ต่างกันอย่างไร? เลือกแบบไหนดี

สายยางเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในหลากหลายภาคส่วน ทั้งในภาคเกษตรกรรม งานบ้าน และภาคอุตสาหกรรมการผลิต แม้จะมีลักษณะภายนอกที่คล้ายคลึงกัน แต่วัสดุที่นำมาผลิตส่งผลให้สายยางแต่ละประเภทมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ การเลือกใช้สายยางให้เหมาะสมกับลักษณะงานไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์อีกด้วย

ในตลาดปัจจุบัน สายยางที่ได้รับความนิยมและมีการใช้งานอย่างแพร่หลายมีอยู่ 3 ประเภทหลัก ได้แก่ สายยาง PVC, สายยาง Rubber และสายยาง PE โดยแต่ละชนิดมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ซึ่งผู้ใช้งานควรพิจารณาให้เหมาะสมกับความต้องการและลักษณะการใช้งานของตน

สายยาง PVC (Polyvinyl Chloride)

สายยาง PVC (Polyvinyl Chloride)

สายยาง PVC เป็นประเภทที่พบได้บ่อยที่สุดในท้องตลาด ด้วยราคาที่ไม่สูงและการเข้าถึงได้ง่าย สายชนิดนี้มีลักษณะเนื้อพลาสติกกึ่งใสหรือมีสีอ่อน มีความยืดหยุ่นพอประมาณ และมีน้ำหนักเบา ทำให้สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายและจัดเก็บ

สายยาง PVC เหมาะกับการใช้งานทั่วไปภายในบ้าน เช่น การรดน้ำต้นไม้ การล้างรถ หรืองานเล็กๆ ที่ไม่มีแรงดันน้ำสูง แม้จะมีข้อดีเรื่องความคล่องตัวและต้นทุนต่ำ แต่สาย PVC ก็มีข้อจำกัดที่สำคัญคือไม่ทนต่อความร้อนสูง และเมื่อใช้กลางแจ้งหรือเจอแดดแรงเป็นเวลานาน มักจะกรอบ แตก หรือหักงอเสียรูปได้ง่าย ทำให้ไม่เหมาะกับการใช้งานภายนอกอาคารเป็นระยะเวลานาน

คุณสมบัติเด่น:

  • ราคาประหยัดและหาซื้อได้ง่ายในท้องตลาดทั่วไป
  • มีน้ำหนักเบา สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายและจัดเก็บ
  • มีความยืดหยุ่นในระดับปานกลาง
  • ลักษณะเป็นพลาสติกกึ่งใสหรือมีสีอ่อน ทำให้สังเกตการไหลของน้ำได้ง่าย

ข้อจำกัด:

  • ไม่ทนต่ออุณหภูมิสูง
  • เมื่อใช้งานกลางแจ้งเป็นเวลานานมักเสื่อมสภาพ กรอบ แตก
  • ไม่เหมาะกับงานที่ต้องใช้แรงดันน้ำสูง

การใช้งานที่เหมาะสม:

  • งานทั่วไปภายในบริเวณบ้าน เช่น การรดน้ำต้นไม้ การล้างรถ
  • งานที่ไม่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศรุนแรงเป็นเวลานาน
  • งานที่ต้องการความคล่องตัวและไม่มีแรงดันน้ำสูงมาก

สายยาง Rubber (ยางธรรมชาติหรือยางสังเคราะห์)

สายยาง Rubber (ยางธรรมชาติหรือยางสังเคราะห์)

สายยางประเภทนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ งานระบบสูบน้ำในพื้นที่ขนาดใหญ่ งานในโรงงาน หรือในไซต์งานก่อสร้างต่างๆ จุดเด่นอีกประการหนึ่งคือทนแดดได้ดี ไม่กรอบแตกง่ายแม้ใช้งานกลางแจ้ง

สายยาง Rubber มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของความแข็งแรงและทนทานต่อแรงดันสูง ความร้อน และแรงเสียดทาน ตัวเนื้อยางมีความยืดหยุ่นสูง เหนียว และไม่ฉีกขาดง่าย จึงเหมาะกับงานที่ต้องใช้ความถี่สูงหรือมีแรงดันต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของสายยาง Rubber คือมีน้ำหนักมาก ทำให้เคลื่อนย้ายลำบาก และมีราคาสูงกว่าสายยางชนิดอื่น จึงอาจไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปภายในบ้านที่ไม่ต้องการความทนทานมากนัก

คุณสมบัติเด่น:

  • มีความแข็งแรงและทนทานสูง
  • รองรับแรงดันน้ำได้ดี ไม่แตกหรือรั่วง่าย
  • ทนต่อความร้อนและรังสี UV จากแสงแดดได้ดี
  • มีความยืดหยุ่นและความเหนียวสูง ไม่ฉีกขาดง่าย

ข้อจำกัด:

  • มีน้ำหนักมาก ทำให้เคลื่อนย้ายลำบาก
  • ราคาสูงกว่าสายยางประเภทอื่น
  • อาจมีขนาดและรูปแบบให้เลือกไม่หลากหลายเท่าวัสดุอื่น

การใช้งานที่เหมาะสม:

  • งานที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ฟาร์มเลี้ยงสัตว์
  • ระบบสูบน้ำที่มีแรงดันสูงหรือต้องทำงานต่อเนื่อง
  • งานในโรงงานอุตสาหกรรมหรือไซต์งานก่อสร้าง
  • งานกลางแจ้งที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวน

สายยาง PE (Polyethylene)

สายยาง PE หรือที่หลายคนรู้จักในรูปแบบท่อ PE หรือสายระบบน้ำหยด เป็นสายยางที่นิยมใช้ในงานเกษตรกรรมโดยเฉพาะ มีจุดเด่นที่น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย และทนแดดได้ดีเยี่ยม

สายยางชนิดนี้มักใช้ในระบบรดน้ำอัตโนมัติ ระบบน้ำหยด หรือเป็นท่อน้ำสำหรับแปลงเกษตรแบบถาวร นอกจากนี้ สาย PE ยังมีความทนต่อสารเคมี ปุ๋ย หรือน้ำยาที่ใช้ในฟาร์มได้ดีมาก ทำให้เหมาะกับการใช้งานในภาคเกษตรกรรม

ข้อจำกัดของสายยาง PE คือมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าสายยางประเภทอื่น ไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้ายหรือใช้งานที่ต้องขยับสายไปมาเป็นประจำ เพราะอาจเกิดการบิดหักเสียรูปได้ง่าย จึงเหมาะกับการติดตั้งแบบถาวรมากกว่าการใช้งานเคลื่อนที่

คุณสมบัติเด่น:

  • น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย
  • ทนต่อรังสี UV จากแสงแดดได้ดีเยี่ยม
  • ทนต่อสารเคมี ปุ๋ย และน้ำยาทางการเกษตร
  • เหมาะสำหรับการติดตั้งแบบถาวร

ข้อจำกัด:

  • มีความยืดหยุ่นน้อยกว่าสายยางประเภทอื่น
  • ไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้ายบ่อยๆ เนื่องจากอาจเกิดการบิดหักเสียรูปทรง
  • มักมีขนาดและรูปแบบเฉพาะสำหรับงานเกษตรกรรม

การใช้งานที่เหมาะสม:

  • ระบบการให้น้ำในงานเกษตรกรรม โดยเฉพาะระบบน้ำหยด
  • การติดตั้งระบบรดน้ำอัตโนมัติแบบถาวร
  • แปลงเกษตรขนาดใหญ่ที่ต้องการความทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอก

ตารางเปรียบเทียบสายยางแต่ละประเภท

คุณสมบัติ / ประเภทPVCRubberPE
น้ำหนักเบาหนักเบา
ความยืดหยุ่นปานกลางสูงต่ำ
ทนแรงดันปานกลางสูงปานกลาง
ทนความร้อนต่ำสูงปานกลาง
อายุการใช้งานปานกลางยาวยาว
ราคาต่อเมตรต่ำสูงปานกลาง
เหมาะกับงานบ้าน, รดน้ำฟาร์ม, โรงงาน, กลางแจ้งแปลงเกษตร, ระบบน้ำหยด

เกณฑ์การเลือกใช้สายยางให้เหมาะสม

เมื่อเปรียบเทียบสายยางทั้งสามประเภท จะเห็นว่าแต่ละชนิดมีความเหมาะสมกับลักษณะงานที่แตกต่างกัน ดังนี้:

  • สาย PVC เหมาะสำหรับงานเบาในครัวเรือนหรือพื้นที่เล็กๆ ที่ไม่ต้องการความทนทานสูง และต้องการความสะดวกในการใช้งาน รวมถึงงานที่มีงบประมาณจำกัด
  • สาย Rubber เหมาะกับงานหนักที่ต้องการความทนทาน ใช้งานกลางแจ้งหรือต้องรองรับแรงดันสูง เช่น งานในฟาร์ม โรงงาน หรือไซต์ก่อสร้าง ซึ่งแม้จะมีราคาสูงแต่ให้ความคุ้มค่าในระยะยาวสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง
  • สาย PE เหมาะกับการติดตั้งในระบบถาวร เช่น แปลงเกษตรที่ต้องใช้ระบบน้ำหยดตลอดทั้งปี หรืองานที่ต้องการความทนทานต่อสารเคมีและแสงแดด โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตร

การเลือกสายยางให้เหมาะกับประเภทงานและสภาพแวดล้อมการใช้งานไม่เพียงแต่ช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและยืดอายุการใช้งานได้อย่างมาก โดยผู้ใช้ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ทั้งลักษณะงาน ความถี่ในการใช้ สภาพแวดล้อม แรงดันน้ำ และงบประมาณที่มี เพื่อเลือกสายยางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการเฉพาะของตน

เอกสุวรรณการเกษตร

ผู้เชี่ยวชาญด้าน เกษตรโรงเรือน อุปกรณ์โรงเรือน พลาสติกโรงเรือน พลาสติกปูบ่อ มานานกว่า 30 ปี
เราได้รับความวางใจโดยเกษตรกรทั่วไทย มามากกว่า 100,000 ราย

สารบัญ