-->

🚚จัดส่งฟรี !! เมื่อซื้อสินค้าครบ ฿1000 ขึ้นไป‼🚚

พิเศษ สั่งซื้อสินค้า ฿5000 ขึ้นไป สามารถ ผ่อนชำระบัตรเครดิต
สูงสุด 0% | 10 เดือน !!!

สั่งของได้ ส่งของได้ตามปกติค่ะ ^^

วิธีการคำนวณปริมาณน้ำฝน ให้เพียงพอต่อการใช้ตลอดปี

ในช่วงฤดูแล้งหรือปีที่ฝนทิ้งช่วง การมีแหล่งน้ำเพียงพอคือหัวใจของการทำเกษตรแบบยั่งยืน เพราะแม้คุณจะมีปุ๋ยดี พันธุ์พืชคุณภาพ หรือแปลงดินพร้อม แต่หากน้ำไม่เพียงพอ พืชก็ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ตามศักยภาพ และที่สำคัญ การมีน้ำไม่ใช่แค่ “มีแหล่งน้ำ” แต่ต้องรู้ว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่นั้นเพียงพอกับการใช้งานตลอดฤดูกาลหรือไม่

บทความนี้จะพาคุณเรียนรู้วิธี คำนวณปริมาณน้ำที่จำเป็นต่อการเพาะปลูกในหนึ่งปี อย่างเป็นระบบ พร้อมตัวอย่างจริงที่สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกแปลงเกษตร ไม่ว่าคุณจะมีพื้นที่ใหญ่หรือเล็ก ระบบรดน้ำอัตโนมัติหรือแบบดั้งเดิม เพราะการคำนวณน้ำที่ดี คือการวางแผนที่ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสสำเร็จให้กับทุกฤดูกาลเพาะปลูก

คำนวณปริมาณน้ำฝนอย่างไร ให้เพียงพอต่อการใช้ตลอดปี

ก่อนการวางแผนเพาะปลูก สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่า “ฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ของเรานั้นสามารถเก็บกักไว้ได้มากแค่ไหน?” หากสามารถคำนวณและออกแบบพื้นที่กักเก็บให้พอดีกับปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย จะช่วยให้บริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำ

สูตรคำนวณปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาบนพื้นที่:

ปริมาณน้ำฝน (ลูกบาศก์เมตร) = ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายปี (มม.) × พื้นที่รับน้ำฝน (ตร.ม.) ÷ 1,000

ตัวอย่าง: หากคุณมีพื้นที่รับน้ำฝนขนาด 1 ไร่ = 1,600 ตร.ม. และพื้นที่ของคุณมีน้ำฝนเฉลี่ยปีละ 1,200 มม.

ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา = 1,200 × 1,600 ÷ 1,000 = 1,920 ลูกบาศก์เมตรต่อปี

นั่นหมายถึง หากคุณสามารถเก็บน้ำฝนได้เต็ม 100% ก็จะมีน้ำไว้ใช้ถึง 1,920 ลบ.ม. ต่อปี ซึ่งมากพอสำหรับการเพาะปลูกผักทั่วไปในพื้นที่ขนาด 1–2 ไร่

แต่ในทางปฏิบัติ เราควรเผื่อการสูญเสียน้ำ เช่น การระเหย การซึมลงดิน หรือไหลทิ้ง ดังนั้นจึงควรออกแบบสระน้ำหรือแทงค์กักเก็บให้สามารถรองรับ อย่างน้อย 120–130% ของปริมาณที่ต้องการใช้งานจริง

สูตรคำนวณปริมาณน้ำที่ต้องใช้ในแปลงเพาะปลูก:

ปริมาณน้ำต่อวัน (ลิตร) = พื้นที่ปลูก (ไร่) × ค่าการใช้น้ำเฉลี่ย (ลิตร/ไร่)

หากต้องการวางแผนให้ใช้น้ำตลอดทั้งปี: น้ำที่ต้องใช้ต่อปี = น้ำต่อวัน × จำนวนวันใช้งาน + เผื่อการสูญเสียอีก 20–30%

วางแผนขนาดสระน้ำให้เหมาะสม

วางแผนขนาดสระน้ำให้เหมาะสม

สมมุติว่าคุณต้องการน้ำใช้ 1,000 ลิตร/วัน เป็นเวลา 300 วัน = 300,000 ลิตร + เผื่อระเหย 30% = 390,000 ลิตร หรือ 390 ลบ.ม.

คุณควรเตรียมสระน้ำให้มีความจุประมาณ 400–450 ลบ.ม. ขึ้นไป จึงจะเพียงพอ

เทคนิคออกแบบสระน้ำให้ประหยัดน้ำมากขึ้น

เทคนิคออกแบบสระน้ำให้ประหยัดน้ำมากขึ้น
  1. ขุดสระแบบขั้นบันได เพื่อป้องกันการทรุดตัวและช่วยลดการระเหยของน้ำเมื่อระดับน้ำลดลง
  2. ปลูกต้นไม้รอบสระ เพื่อบังแดดและลดแรงลม ลดการระเหยของน้ำ
  3. ติดตั้งแผ่นลอยน้ำพลาสติก/ผ้าใบคลุมผิวน้ำบางส่วน เพื่อช่วยลดการระเหยโดยตรงจากแดด
  4. ใช้พลังงานแสงอาทิตย์สูบน้ำ เพื่อลดต้นทุนระยะยาวและใช้พลังงานสะอาด
  5. ผสานการใช้ระบบน้ำหยดในแปลงปลูก ช่วยลดปริมาณการใช้น้ำ และส่งน้ำได้ตรงจุด ตรงเวลา

เอกสุวรรณเกษตร 2001 มีบริการวางระบบน้ำหยด ปั๊มน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ และพลาสติกปูบ่อคุณภาพสูง พร้อมทีมให้คำปรึกษาการออกแบบบ่อน้ำให้เหมาะกับพืชแต่ละชนิดและสภาพพื้นที่

สรุป

การคำนวณน้ำอย่างเป็นระบบ ทั้งจากแหล่งน้ำฝน และความต้องการน้ำของพืช ช่วยให้คุณวางแผนพื้นที่ ปรับชนิดพืช และเลือกอุปกรณ์น้ำได้อย่างคุ้มค่า ลดความเสี่ยงในฤดูแล้ง และต่อยอดสู่การทำเกษตรที่มีรายได้สม่ำเสมอตลอดทั้งปี

หากคุณกำลังวางแผนออกแบบบ่อ ขยายระบบน้ำ หรือเริ่มต้นแปลงเกษตรใหม่ เอกสุวรรณพร้อมให้คำปรึกษาฟรี พร้อมจัดส่งอุปกรณ์คุณภาพทั่วไทย

เอกสุวรรณการเกษตร

ผู้เชี่ยวชาญด้าน เกษตรโรงเรือน อุปกรณ์โรงเรือน พลาสติกโรงเรือน พลาสติกปูบ่อ มานานกว่า 30 ปี
เราได้รับความวางใจโดยเกษตรกรทั่วไทย มามากกว่า 100,000 ราย

สารบัญ