🍈4 โรคร้ายแรงบ่อนทำลายเมล่อน🍈
เนื่องจากเมล่อน หรือ แคนตาลูปเป็นพืชที่ค่อนข้าง “เซ้นซิทีฟฟฟฟ” หรือ อ่อนไหวต่อการเกิดโรคพืชได้ง่ายๆ วันนี้จะขอนำเสนอโรคที่มักพบบ่อยในเมล่อนนะครับ
⛔โรคราน้ำค้าง⛔
โรคนี้เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อที่ขื่อว่า “ซูโดเปโรนอสโปร่า” (Pseudoperonospora) อาการที่จะเกิดขึ้น คือ จะมีจุดสีเหลือง หรือ
จุดสีน้ำตาลขนาดเล็กก่อนที่จะขยายใหญ่ขึ้นจนเต็มใบในที่สุด
จุดสังเกตที่ชัดเจน คือ ใต้ใบนั้นจะเห็นเส้นใบเชื้อราสีขาว และ เมื่อเมล่อนเกิดโรคนี้ และ มีอาการรุนแรงขึ้น เมล่อนจะแห้งตายในที่สุด
⚔วิธีป้องกันโรคราน้ำค้าง⚔
ใช้ยากันเชื้อรา ฉีดป้องกันทุกสัปดาห์ หรือ หากเกิดโรคแล้วให้ถอนทิ้ง และ นำไปเผาทำลายอย่างรวดเร็วที่สุด
⛔โรคใบด่าง⛔
เกิดจากเชื้อไวรัสเมล่อน ที่ชือว่า โมเสค พาหะของโรคใบด่าง คือ แมลงวันปากดูด
อาการของโรคนี้
💥ใบนั้นจะมีอาการหงิกงอ
💥ใบอ่อนจะไม่เติบโต
💥ต้นจะไม่ออกดอก
⚔วิธีป้องกันโรคใบด่าง⚔
ฉีดสารเคมีกำจัดแมลวันปากดูดเป็นระยะๆ (ไม่ควรฉีดช่วงก่อนการเก็บเกี่ยวผลผลิต)
หากพบว่าเป็นโรคนี้ ควรถอนทิ้งทันที และ นำไปเผาทำลายอย่างรวดเร็วที่สุด
⛔โรคเน่าคอดิน⛔
เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่งที่มีที่ชื่อว่า “ไพธอปโธร่า”
มักเกิดในเมล่อน ระยะที่เป็นต้นกล้า หรือ เมล่อนที่ย้ายลงปลูกใหม่ เนื่องจากดินมีความชื้นสูง
โคนต้นจะมีรอยช้ำ และ เน่าบริเวณคอดิน
⚔วิธีป้องกันโรคเน่าคอดิน⚔
ก่อนปลูกควรมีการคลุกเคล้าสารเคมีกำจัดโรคนี้กับเมล็ดที่ต้องการเพาะก่อนเพาะ
หากพบว่าเป็นโรคนี้ ควรถอนทิ้งทันที และ นำไปเผาทำลายอย่างรวดเร็วที่สุด
⛔โรคแอนแทรคโนส⛔
เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่งที่มีที่ชื่อว่า “คอนเลคโทรตริคัมโกลอีออสโปริโอเดส”
ลักษณะอาการจะเห็นเป็นจุดช้ำๆ เมื่อแผลขยายใหญ่ชึ้น จะเห็นแผลกลมสีน้ำตาลแดง
มีสีขาวตรงกลางผล อาการส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่ใบ จะเกิดเป็นรูปวงกลม หรือ วงรีสีน้ำตาลไหม้
ถ้าเป็นที่กลางใบจะเห็นแผลค่อนข้างกลม ถ้าเกิดที่ปลายใบแผลจะลามมาที่โคนใบ
เชื้อราโรคนี้ จะชอบความชื้นสูง ฉะนั้นเราจะพบโรคนี้ระบาดบ่อยในช่วงหน้าฝน
สามารถแพร่กระจายไปกับ ลม ฝน หรือ น้ำที่ใช้รดต้นเมล่อนได้ด้วย
⚔วิธีการป้องกันโรคแอนแทรคโนส⚔
ฉีดพ่นด้วยสารป้องกันและกำจัดโรคพืช ได้แก่ แมนโคเซบ หรือ แคปแทน หรือ คาร์เบนดาซิม
ฉีดตามอัตราที่ระบุในฉลากฉีดพ่น เมื่อพบโรค ฉีดทุก 7- 10 วัน
หากพบว่าเป็นโรคนี้ ควรถอนทิ้งทันที และ นำไปเผาทำลายอย่างรวดเร็วที่สุด
อ้างอิง: ราชินีพืชตระกูลแตง