-->

🚚จัดส่งฟรี !! เมื่อซื้อสินค้าครบ ฿1000 ขึ้นไป‼🚚

พิเศษ สั่งซื้อสินค้า ฿5000 ขึ้นไป สามารถ ผ่อนชำระบัตรเครดิต
สูงสุด 0% | 10 เดือน !!!

สั่งของได้ ส่งของได้ตามปกติค่ะ ^^

5 วิธีปลูกพริกขี้หนูสวน ผลผลิตดก ใช้พื้นที่น้อย แต่ขายได้ทั้งตลาด

5 วิธีปลูกพริกขี้หนูสวน ผลผลิตดก ใช้พื้นที่น้อย แต่ขายได้ทั้งตลาด

พริกขี้หนูสวน เป็นพืชที่มีศักยภาพทางการตลาดสูง เพราะสามารถใช้ได้ทั้งสด แห้ง และแปรรูป อีกทั้งยังมีรสชาติเผ็ดจัด กลิ่นหอมเฉพาะตัว และให้ผลผลิตต่อเนื่องหลายเดือน ด้วยคุณสมบัติที่โตไว ทนร้อน และไม่ต้องใช้พื้นที่มาก พริกขี้หนูสวนจึงเป็นพืชที่เหมาะทั้งกับเกษตรกรรุ่นเก่าและเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นอย่างจริงจัง

ในบทความนี้ เราจะแนะนำ 5 วิธีปลูกพริกขี้หนูสวน แบบละเอียด ครบทุกขั้นตอนตั้งแต่การเตรียมเมล็ดจนถึงการดูแลเพื่อเก็บผลผลิตได้ยาวนาน

1. เตรียมเมล็ดพันธุ์ให้พร้อม ปลูกแล้วงอกไว โตสวยตั้งแต่ต้น

การเริ่มต้นที่ดีต้องเริ่มจาก เมล็ดพันธุ์คุณภาพ ควรเลือกเมล็ดพันธุ์จากแหล่งที่เชื่อถือได้ โดยเลือกเมล็ดที่สะอาด ไม่มีเชื้อรา และผ่านการคัดสายพันธุ์มาแล้วเพื่อความสม่ำเสมอของต้นและผล

ก่อนเพาะควรแช่เมล็ดใน น้ำอุ่นอุณหภูมิประมาณ 50 องศาเซลเซียส ประมาณ 10–15 นาที วิธีนี้ช่วยกระตุ้นกระบวนการงอกด้วยความร้อน จากนั้นห่อเมล็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ แล้ววางไว้ในที่ร่ม 1–2 วัน เมล็ดจะเริ่มแตกยอดรากสีขาวเล็ก ๆ ซึ่งแสดงถึงความพร้อมในการเพาะปลูก

การเตรียมเมล็ดที่ดีจะช่วยให้เมล็ดงอกเร็ว สม่ำเสมอ ลดอัตราการตายของต้นกล้าในระยะเพาะได้มาก

2. เพาะกล้าในถาดหรือถุงปลูก

เมล็ดพริกที่เริ่มงอกแล้วควรนำไปเพาะใน ถาดหลุม หรือถุงดำขนาดเล็ก ซึ่งช่วยให้ควบคุมสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น โดยใช้วัสดุปลูกที่มีคุณสมบัติโปร่ง ระบายอากาศได้ เช่น ดินร่วนซุยผสมกับปุ๋ยคอกเก่าที่ย่อยสลายแล้ว และแกลบดิบในอัตราส่วน 2:1:1

การวางถาดเพาะควรเลือกตำแหน่งที่มีแสงแดดรำไร ไม่ควรให้โดนแดดจัดตรง ๆ ในช่วงแรก ต้นกล้าควรรดน้ำเช้า-เย็นให้พอชุ่ม แต่อย่าให้น้ำขัง เพราะอาจทำให้รากเน่า

เมื่อต้นกล้าอายุประมาณ 25–30 วัน และมีความสูงประมาณ 10–15 เซนติเมตร รากเริ่มแน่นในถุงเพาะ แสดงว่าแข็งแรงพอสำหรับการย้ายลงแปลงปลูก

3. เตรียมดินให้เหมาะ ดินดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

พริกขี้หนูสวนเป็นพืชที่ชอบแดดจัด และดินที่โปร่ง ระบายน้ำดี การเตรียมแปลงปลูกจึงต้องให้ความสำคัญกับโครงสร้างดิน

ขั้นแรก ให้ไถหรือขุดดินลึกประมาณ 15–20 เซนติเมตร จากนั้นตากดินทิ้งไว้ 5–7 วัน เพื่อลดความชื้นส่วนเกินและฆ่าเชื้อโรคในดิน เช่น เชื้อรา หรือไข่แมลงศัตรูพืช

หลังจากนั้นควรใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมักที่ย่อยสลายแล้วลงในดิน ปรับให้มีอินทรียวัตถุในระดับพอเหมาะ แล้วพรวนดินให้ละเอียด

หากเป็นพื้นที่ที่มีโอกาสน้ำขัง ควร ยกร่องแปลง ให้สูง และอาจใช้ พลาสติกคลุมดิน 2 สี (ดำ/เงิน) เพื่อควบคุมวัชพืช รักษาความชื้น และสะท้อนแสงให้พริกออกผลดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผลพริกสะอาด ไม่ชื้น หรือเปื้อนดิน

4. ย้ายต้นกล้าลงปลูกด้วยระยะที่เหมาะสม

เมื่อเตรียมดินและกล้าเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการย้ายกล้าลงแปลงปลูก การเว้นระยะปลูกที่เหมาะสมจะช่วยให้ต้นพริกได้รับแสงและลมอย่างเพียงพอ ลดปัญหาโรคระบาด และเพิ่มผลผลิตต่อไร่

  • แถวเดี่ยว: ระยะห่างระหว่างต้น 50 ซม. และระหว่างแถว 100 ซม.
  • แถวคู่: ระยะห่างต้น 50 ซม. แถวห่างกัน 80 ซม. และระหว่างแถวคู่ 120 ซม.

ควรปลูกตอนเย็นเพื่อให้ต้นกล้าได้ปรับตัวโดยไม่ช็อกแดด รดน้ำทันทีหลังปลูก และควรรดทุกวันในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก เพื่อกระตุ้นการแตกรากใหม่และตั้งตัว

5. ดูแลต่อเนื่อง บำรุงสม่ำเสมอ เก็บขายได้นานหลายเดือน

การดูแลหลังปลูกเป็นหัวใจของการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ยาวนาน พริกขี้หนูสวนต้องการน้ำสม่ำเสมอ ควรรดน้ำวันละ 1–2 ครั้ง โดยดูจากความชื้นของดิน ถ้าใช้ระบบน้ำหยดจะยิ่งควบคุมได้ดีและประหยัดแรงงาน

ด้านปุ๋ย ควรแบ่งการบำรุงเป็นช่วง:

  • ระยะเจริญเติบโตทางใบ: ใช้ปุ๋ยไนโตรเจน เช่น 21-0-0 ทุก 15–20 วัน
  • ระยะออกดอก-ติดผล: ใช้ปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 หรือ 13-13-21 และเสริมโพแทสเซียม (0-0-60) เพื่อเร่งสีและขนาดผล
  • ควบคู่กับ ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น มูลไก่ หรือมูลค้างคาวเพื่อปรับโครงสร้างดิน

หมั่นกำจัดวัชพืช และเฝ้าระวังศัตรูพืช เช่น เพลี้ยไฟ หนอนเจาะผล โรครากเน่า หากพบการระบาด ควรใช้สารชีวภาพหรือสารสกัดจากธรรมชาติก่อนสารเคมี เช่น กาวเหลืองดักแมลง, เชื้อบีที, หรือสารสกัดสะเดา

เอกสุวรรณการเกษตร

ผู้เชี่ยวชาญด้าน เกษตรโรงเรือน อุปกรณ์โรงเรือน พลาสติกโรงเรือน พลาสติกปูบ่อ มานานกว่า 30 ปี
เราได้รับความวางใจโดยเกษตรกรทั่วไทย มามากกว่า 100,000 ราย

สารบัญ